วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ปรับทัศนคติ

Attitude (ทัศนคติ)
   พอได้ยินคำนี้หลายคนไม่อยากที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย อะไรก็ปรับทัศนคติ เข้าเรื่องดีกว่าสำหรับวันนี้จะว่ากันด้วยเรื่องทัศนคติเกี่ยวกับธุรกิจ มันมีความสำคัญยังไงต้องเป็นเรื่องที่ดีอย่างเดียวหรือร้ายบ้างก็ได้ เมื่อคุณจะเริ่มธุรกิจใดๆก็ตามมันต้องมีมุมมองที่ดีเกี่ยวกับธุรกิจนั้นเสียก่อน วันนี้จะแบ่งมุมมองความคิดออกเป็นข้อๆได้ดังนี้

1.วิเคราะห์
   มันเป็นธรรมชาติของการเริ่มต้นสิ่งใหม่ เราต้องคิดวิเคราะห์ว่าเราจะทำอะไร สิ่งที่เราทำจะให้อะไรกับคนทั่วไปและให้อะไรกับเรา บางคนถามแล้วมันเกี่ยวอะไรด้วย งั้นก็ลองถามตัวเองว่า "อยากขายของได้หรืออยากได้ขายของ" ถ้าอยากขายของได้ต้องมีการศึกษาก่อนว่าคนทั่วไปเค้าต้องการอะไร หรือกลุ่มคนที่เราต้องการขายของให้เค้าอยากได้อะไร ขาดอะไร
   คิดอย่างนี้แล้วสินค้าที่เราจะนำมาเสนอขายยังไงก็ต้องขายได้ ต่อไปก็ค่อยไปคิดว่าทำยังไงจึงจะขายดี เหมือนทุเรียนเมืองนนท์ทำไมมันถึงได้แพงนัก เป็นเราคงไม่ซื้อหรอก ถูกครับเพราะคุณก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายลูกค้าเค้าเหมือนกัน สินค้ามีคุณภาพผลผลิตออกมาจำนวนไม่มากต่อปี ราคาย่อมสูงเป็นธรรมดา 

2.วางเป้าหมาย
   เมื่อวิเคราะห์ตลาดเรียบร้อยคิดได้แล้วว่าจะขายอะไรดี คราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนในการตั้งเป้าหมาย ว่าเราต้องการได้อะไรจากสิ่งที่ทำ บางคนอยากมีรายได้เดือนละแสนภายใน 1 ปี บ้างก็แค่อยากมีรายได้มากกว่าปัจจุบันพอที่จะส่งให้พ่อ-แม่ได้ก็พอ ก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน เป้าหมายไม่มีถูกผิดจะตั้งให้ใหญ่โตแค่ไหนตามสบาย
   ถ้าเป้าหมายคุณใหญ่เกินไป ไม่ได้บอกนะว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่อยากให้ซอยเป้าหมายให้เป็นแบบขั้นบันได ไปที่ละชั้นเขาจะสูงทางจะชัน ผมก็เห็นมนุษย์เรามีความพยายามและหาวิธีไปจนถึงจนได้ เป้าหมายก็เช่นกัน ใหญ่แค่ไหนถ้าทำให้เป็นขั้นตอนมันก็สำเร็จจนได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับข้อถัดไปด้วย

3.ลงมือทำ
   วิเคราะห์ดีแล้ว ตั้งเป้าหมายเรียบร้อย แต่ถ้าไม่ลงมือทำก็ถือว่าล้มเหลวเหมือนกัน เพราะจะให้รู้ว่าไอ้ที่วิเคราะห์มามันได้ผลรึเปล่า ต้องปรับตรงไหนบ้างถ้าไม่ลงมือทำมันดูแล้วจะรู้ได้ไง ว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นยังไง
   เป้าหมายที่วางไว้ใหญ่โตมโหฬารเพียงใด ถ้าปราศจากการลงมือทำก็ไม่ต่างจาก ฝันลมๆแล้งๆ ฟังแบบนี้แล้วคุณจะเริ่มได้รึยัง อย่ามัวแต่หาข้ออ้างมาสนับสนุนความขี้เกียจของตัวเอง เว้นเสียแต่พ่อ-แม่คุณจะมีเงินทองพอที่จะให้คุณผลาญเล่นไปวันๆ

   อะไรที่คุณกำลังจะเริ่มมันไม่จำเป็นต้องเลิศเลอ ขอแค่เป็นสิ่งที่คุณชอบและถนัดที่จะทำมัน ผมรับรองว่าคุณต้องมีความสุขที่ได้ทำ และสนุกกับมันทุกครั้งที่ได้ลงมือ สิ่งที่คุณรักคุณจะไม่แค่พยายามทำแต่คุณจะทำมันอย่างบ้าคลั่งประหนึ่งว่าชีวิตขาดมันไม่ได้ และผมหวังว่าจะได้เห็นมุมปากของคุณค่อยๆขยับขึ้นช้าๆอย่างมีความสุขเมื่อนั่งมองดูความสำเร็จ จากการลงมือทำสิ่งที่คุณหลงรักมัน

       "ไม่มีฝันใดเป็นจริงไม่ได้ นอกเสียจากเราจะเพ้อไปเอง"




http://www.p-seangthong.ws


Line ID : 0816748606

https://www.facebook.com/GDI.Prosective
   

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Inspiration

Inspiration 

  หรือ แรงบันดาลใจ คนส่วนใหญ่คิดว่ามันจะนำพาไปสู่ความสำเร็จได้ และต่างแสวงหาไขว่คว้ามัน แล้วอย่างนี้เราจะตามหามันได้จากที่ไหนบ้าง
  เมื่อจะเริ่มทำอะไรสักอย่าง เราต้องตั้งเป้าหมายเพื่อกำหนดจุดหมาย และหาแรงบันดาลใจมาสนับสนุนเพื่อเป็นตัวช่วยให้ไปสู่ความสำเร็จ แรงบันดาลใจหาได้จากรอบตัวหรือแม้กระทั่งในตัวเอง เราจะมาลองแยกมันออกเป็น 2 ส่วน คือ ปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอกในที่นี้เราจะเรียกมันว่า "แรงผลักดัน" ปัจจัยภายในเรียกว่า "ความเชื่อ"

แรงผลักดัน 

  สิ่งรอบข้างหรือผู้คนรอบตัว ล้วนแต่มีส่วนที่จะนำมาเป็นแรงบันดาลใจได้ทั้งสิ้น เพราะเมื่อคุณเริ่มที่จะทำอะไร ก็จะมีทั้งคนที่คอยร่วมยินดีและอีกส่วนก็จะรอสมน้ำหน้าเมื่อคุณล้ม ไม่ว่าเค้าจะดีหรือร้ายกับคุณมันก็เป็นแรงผลักดันเหมือนกัน ถ้าคุณอยากที่จะประสบความสำเร็จ คุณต้องเลือกที่จะฟังแต่สิ่งดี ดี เพื่อเป็นกำลังใจและในอีกทางนึง คุณต้องอย่าล้มเลิกเพราะอย่าลืมว่ามีคนคอยสมน้ำหน้าคุณอยู่ เราต้องทำให้เค้าเห็นว่าเราสามารถทำได้ และได้เป็นอย่างดีด้วย ฉนั้นจึงเรียกปัจจัยภายนอกว่า "แรงผลักดัน"


ความเชื่อ

   ในเมื่อคุณอยากประสบความสำเร็จจะต้องมีความเชื่อ ที่นี้อยู่ที่ว่าคุณจะเชื่อใคร ถ้าเลือกคนที่บอกว่าคุณไม่มีทางทำมันได้รับรองเลยครับว่าต่อให้ทำอะไรก็ไม่มีทางสำเร็จ แต่ถ้าเลือกเชื่อคนที่บอกว่าคุณสามารถทำมันได้ต่อให้คุณกำลังแย่เชื่อเถอะครับว่าเค้ามีทางออกให้คุณแน่นอน เหมือนกับเราเชื่อคนที่ล้มเหลวยังไม่ทันเริ่มก็จะล้มเหลวเหมือนอย่างเค้า เพราะส่วนใหญ่คนจำพวกนี้ไม่เคยลงมือทำหรอกครับ ได้แต่วิจารณ์แล้วก็บอกมันไม่รุ่ง ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์คนแบบนี้จะมีมากถึง 70% ส่วนคนที่ลงมือทำแล้วประสบความสำเร็จจะมีอยู่แค่ 10% อีก 20% ก็ประเภทที่ยังมองหาแรงบันดาลใจนี่แหล่ะครับ ยังไม่รู้จะเริ่มกับอะไรยังไงดี อยากมีเงิน อยากมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เลี้ยงดูพ่อ-แม่ได้แบบสบายๆไม่อยากเห็นท่านเหนื่อย
   ถ้าคุณเป็นคนประเภทหลังสุด ผมขอแนะนำให้คุณดูตัวอย่างจากคนที่ประสบความสำเร็จ พวกเค้าเหล่านั้นก่อนที่จะสำเร็จต้องเจออุปสรรคมาด้วยกันทั้งสิ้น แต่ละคนจะมีคุณธรรมและความซื่อสัตย์กับตัวเอง บางคนประสบความสำเร็จเพราะฐานะทางบ้านเอื้ออำนวย กับบางคนรวยได้ทั้งๆที่บ้านจน เพราะมันอยู่ที่เป้าหมายที่เค้าตั้งไว้และความเชื่อในตัวเองว่าเค้าสามารถทำมันได้ ปัจจัยภายในจึงเรียกว่า "ความเชื่อ"


   ที่นี้คุณต้องเลือกเองแล้วว่า ชีวิตคุณข้างหน้าคุณจะกำหนดให้มันเป็นยังไง แบ่งเวลามาให้คุณค่ากับชีวิตตัวเองบ้าง ดีกว่ามัวเอาเวลาไปนั่งท้อแท้สิ้นหวังกับโชคชะตา มีแต่ตัวคุณเองที่จะช่วยตัวเองได้ คุณไม่ต้องกลัวโดนหลอกถ้าคุณศึกษามันเป็นอย่างดี ถ้าอยากรวยคุณต้องเชื่อว่าคุณทำมันได้แล้วคุณจะรวย ขึ้นอยู่ว่าจะเร็วหรือช้าแต่รวยง่ายนั้นมันไม่มี และต้องมีความกล้า กล้าที่จะเสี่ยง ซื้อหวยยังซื้อได้ หยิบเงินจากกระเป๋าไปซื้อน้ำเพื่อเปิดฝาชิงรางวัลยังทำได้ แลัวทำไมจะลงทุนกับความสำเร็จในชีวิตคุณเองไม่ได้

             " อุปสรรคคือแรงผลักดันชั้นดี ที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จ " 

                                     Inspiration    แรงบันดาลใจ






Line ID : 0816748606

วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ชีวิตนี้ไม่มีทุน

เกิดมาจนรวยได้ป่าว
  คนเรายังไม่ทันเริ่มก็ตั้งแง่กับสิ่งที่จะทำ ความคิดมันเริ่มตั้งแต่ทุนไม่มี ไม่เคยทำ ทำแล้วดีจริงหรือต่างๆอีกมากมาย เค้าเรียกว่าอยากรวยแต่อยากทำแล้วรวยเลยไม่อยากรอ ลองมาคิดดูสิว่าอยากได้เงินล้านนึง เดินไปขอเค้าแล้วมันจะได้เลยมั๊ย มันต้องอดทนสิเก็บเล็กผสมน้อยเดี๋ยวได้เอง
   บางคนยังดีทุนน้อยแต่ยังไม่มีหนี้สิน แต่บางคนมีหนี้ด้วยยังขาดทุนทรัพย์อีก แล้วจะจัดการอย่างไร คนทุนน้อยความทุ่มเท 100% สำหรับคนที่มีหนี้คุณต้องมีเกิน 100% เหมือนยอดมนุษย์เลยต้องมีอะไรมากกว่าคนอื่น
ลดรายจ่าย  
   ขั้นแรกห้ามท้อเมื่อไหร่ที่คุณหมดหวังทุกอย่างที่เลวร้ายจะมาลงที่คุณ ตั้งสติและจัดการกับมันส่วนไหนที่ตัดออกจากรายจ่ายได้รีบทำ รายจ่ายหลักคืออะไร ค่างวดบ้าน/ค่าเช่า อันนี้ต้องจ่ายไม่จ่ายจะไปอยู่ที่ไหน ส่งไหวก็ส่งไปถ้าส่งไม่ไหวขอประนอมหนี้ได้เพื่อรักษาสภาพคล่อง ค่าน้ำ/ค่าไฟ อาหารการกิน อะไรสิ้นเปลืองก็ลดมัน 
เพิ่มรายได้
   การลดรายจ่ายทำให้เกิดสภาพคล่อง แต่ยังไม่มีอิสระภาพอาจะแค่มีเงิน แต่ไม่ได้มีใช้อย่างสบายมีหลายอย่างที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้คุณมีทั้งลงทุนและไม่ลงทุน 
   แบบลงทุนก็มีตั้งแต่ทำบ้านเช่า ขายเสื้อยืด กางเกงยีนส์ นำเข้าสินค้า ธุรกิจเครือข่าย ซื้อหุ้น
   แบบไม่ลงทุนก็ประเภทขายความรู้ ความสามารถ เขียนอีบุ๊ค หาของลงขายในอีเบย์ และ การเป็น Affiliate Marketer ซึ่งปัจจุบันหลายบริษัทเปิดรับมากขึ้นเพื่อช่วยกระจายสินค้า 
   แต่ทุกอย่างล้วนต้องศึกษาให้รู้ถึงการทำงานอย่างถ่องแท้ เพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปแบบไม่สะดุด คนที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเพราะเค้ามัวแต่คิด แต่ไม่ลงมือทำถ้าคุณคิดได้ว่าจะทำอะไร วางแผนตั้งเป้าหมายแล้วลงมือเลย ไม่ต้องรอความพร้อมถ้ามัวแต่รอเมื่อไหร่จะได้เริ่มสักที
   และถ้าบางคนคิดว่าที่ชีวิตตนเองไม่มีอะไรสักทีเป็นเพราะเวรกรรม ผมมีบทสวดขออโหสิกรรมมาฝากเผื่อจะช่วยทางด้านจิตใจกันได้บ้าง

บทอธิษฐานขออโหสิกรรม สมเด็จพระพุฒจารย์ โต พรหมรังสี

  กายะกัมมัง วะจีกัมมัง มะโนกัมมัง สัญจิจจะกัมมัง
  อสัญจิจะกัมมัง ขะมันตุเม อะโหสิกัมมัง ภะวะตุ เม.
กรรมใดๆ ไม่ว่าจะเป็นกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่ข้าพเจ้าได้ทำล่วงเกินแก่ผู้ใด ทั้งโดยตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดี ในภพชาติใดก็ตาม ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโปรดยกโทษให้เป็นอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า อย่าได้จองเวรจองกรรมต่อกันอีกเลย
แม้แต่กรรมใดๆที่ใครทำไว้แก่ข้าพเจ้าก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น ยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน ขอจงดลให้เค้าเหล่านั้นกลับมีเมตตาจิต คิดเป็นมิตรกับข้าพเจ้า เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อกันตลอดไป
ด้วยอานิสงฆ์แห่งอภัยทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้าพร้อมทั้งครอบครัว ตลอดจนวงศาคณาญาติ ผู้มีอุปการคุณของข้าพเจ้า พ้นจากความทุกข์ยากลำบากเข็ญใจความทุกข์อย่าได้ใกล้ ความเจ็บไข้อย่าได้มี ขอได้มีความสุขสวัสดีมีชัย เสนียดจัญไรและอุปัทวันตรายทั้งหลาย จงเสื่อมสิ้นหายไป นึกคิดปราถนาสิ่งใดที่เป็นไปด้วยชอบประกอบไปด้วยธรรมแล้ว ขอให้สิ่งนั้นจงพลันสำเร็จ จงพลันสำเร็จ จงพลันสำเร็จเทอญ

******** ไม่มีความสำเร็จใด ที่ได้มาโดยไม่ลงมือทำ ********



http://www.p-seangthong.ws/

Fanpage : GDI Prospective