วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ขายของบน Facebook จะขายได้เหรอ???


Sell On Facebook 
   เอาง่ายๆ "ขายของบนเฟสบุ๊ค" นี่แหล่ะ ไม่ต้องไปใช้คำที่มันดูวิจิตรพิศดารอะไร แล้วไอ้การเอาสินค้ามาขายบนเฟสเนี้ยะ มันขายดีจริงรึ? หรือแค่โพสทิ้งๆขว้างๆ อ่า!! อันนี้อยู่ที่ตัวคุณเเล้วหล่ะ แต่มันก็มีเทคนิคเล็กๆน้อยๆ ที่จะเป็นตัวช่วยให้โพสแต่ละโพสของคุณมีประสิทธิภาพ ดีกว่าโพสทื่อๆแล้วไม่มีแม้แต่คนถูกใจละน่ะ 
   ก่อนอื่นต้องมารู้ก่อนว่า เฟสบุ๊คมีอะไรเป็นตัววัดว่าโพสของเรามีคุณภาพ พอทีจะโชว์ในหน้านิวส์ฟีดเฟสบุ๊ค วันนี้จะมาทำความรู้จักกับไอ้เจ้า Edgerank ซึ่งมีส่วนประกอบดังนี้

 EDGERANK
   ส่วนประกอบนั้นมีอยู่ 3 อย่าง แต่ Facebook จะนำ Edgerank มาคำนวณด้วยสูตรที่มีสัดส่วนแต่ละอย่างเท่าไหร่นั้น ยังคงเป็นความลับอยู่
* Affinity หมายถึงคุณมีความใกล้ชิดกับผู้อ่านมากแค่ไหน เคยมา comment หรือ like โพสที่คุณเคยโพสมาก่อนหน้านี้ มากแค่ไหนเพราะถ้ามีเยอะจะส่งผลต่อการคำนวณ Edgerank ของโพสคุณ
* Wight ไม่ได้แปลตรงๆว่าน้ำหนัก แต่หมายถึงว่าโพสของคุณมีจำนวน comment, like, share มากแค่ไหนเรียกว่าความหนาแน่นของโพสดีกว่า
* Time Decay อันนี้คือยิ่งนานวันโพสของคุณมีความสำคัญอยู่หรือไม่ เคยย้อนกลับไปดูโพสเก่าๆของตัวเองบ้างรึเปล่า

จะขายของนะครับไม่ใช่โพสระบายความรู้สึก มันต้องมีการสำรวจโพสว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ รู้ว่าเค้าใช้หลักการอะไรมาคำนวณแล้ว คราวนี้อยากรู้เคล็ดลับที่จะทำให้โพสมีประสิทธิภาพรึยัง?
ถ้าอยากไปต่อ กรุณาโอนเงินเข้าบัญชีผมเพื่อเข้าสู่บทเรียนต่อไป 




   


   5555555 ล้อเล่นหน่ะครับ ใครจะใจดำขนาดนั้นไม่ต้องเสียตังค์หรอกครับ จัดให้ฟรีๆเลยรู้ไว้ไม่เสียหายนะครับ

  การที่โพสจะมีประสิทธิภาพและสามารถขายของได้นั้น ก่อนอื่นต้องรู้จักช่วงเวลาในการโพสเสียก่อน จากสถิติเวลาช่วงเช้าจะอยู่ที่ 07:00 น.- 10:00 น. ช่วงบ่ายจะมีผลมากแค่วันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนช่วงเย็นนั้นประมาณ 19:00 น.เป็นต้นไปครับ มันมีเหตุและผลของแต่ละช่วงเวลาลองหาดู

   ต่อไปมาดูเรื่อง comment, like, share ซึ่งก็เป็นปัจจัยที่นำมาคำนวณประสิทธิภาพของโพส ถ้าไม่มีคนอื่นมากดให้ลักไก่ด้วยการกดเองสิครับ แสดงความเห็นเอง แชร์เองเลย แต่อย่าเยอะนะครับเดี๋ยวโดนแบน

   พอมาถึงเรื่องจำนวนมาก-น้อย ทำให้นึกถึงเรื่องโพส ว่าแต่ละวันไม่จำเป็นต้องกระหน่ำโพสจำนวนมากๆจนดูเลอะและสร้างความรำคาญให้ผู้อื่น คุณเองก็คงไม่ชอบใจเท่าไหร่นักเวลาเห็นโพสอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด

   และที่สำคัญคือ รูปภาพประกอบ เดี๋ยวนี้เฟสบุ๊คมักไม่ค่อยชอบรูปที่มีตัวหนังสืออยู่ในรูปเยอะๆ ลองทำภาพที่เน้นคมชัดสื่อสารได้ชัดเจนดีกว่า อย่าลืมหาวีดิโอมาโพสบ้างก็ได้นะ ผู้อ่านบางท่านก็ไม่ค่อยอยากอ่านอะไรยาวๆ แค่ดูรูป ดูวีดิโอประกอบ ประเภทที่หูฟังแต่ตากับมือกำลังเมาส์เรื่องชาวบ้านอยู่ (คนไม่เคยทำมักไม่ค่อยรู้ อิ อิ)

   อย่างสุดท้ายเลยคือ การสร้างสัมพันธ์กับผู้อ่านบ้าง เช่น มีช่องทางแชทคุยสอบถามเกี่ยวกับสินค้าในช่องแชทบ้าง หรือบางโพสอาจมีคำถามแทรก ให้มีการโต้ตอบกันระหว่างผู้โพสกับผู้อ่านโพส ถ้าทำแล้วไม่มีผลลัพธ์ก็ออกแนวขอร้องกันไปเลย เช่น ช่วยกันกดไลค์หน่อยนะค่ะ, แชร์ได้นะไม่หวงถ้าเป็นประโยชน์, คอมเมนต์กันสักนิดเป็นกำลังใจให้คนเขียนบทความนะ เออะ!!อันนี้ไม่เกี่ยวใช่มั๊ย 55555



   และที่สำคัญอย่าลืมเลยนะว่า Facebook ไม่ใช่ที่ปิดการขายที่ดีที่สุด แต่เป็นเว็บไซต์ต่างหากที่ที่คุณรวมเอาสินค้าทุกอย่างที่คุณมี รวมทั้งรายละเอียดสินค้าและราคา Facebook มีหน้าที่เพียงโปรโมทกับปิดการขายกับคนที่อยากซื้อหรือรู้จักสินค้าคุณอยู่แล้ว
   อย่าเชื่อทั้งหมดที่ผมบอกคุณต้องไปพิสูจน์เอาเอง ด้วยการลงมือทำ การขายที่ดีที่สุดไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนว่าขายได้มากน้อย แต่เกิดจากการซื้อซ้ำๆในคนเดียว แล้วเกิดการบอกต่อเป็นช่องทางโปรโมทที่เรียกว่า "ปากต่อปาก" เป็นคนขายที่คนซื้อชื่นชม นำเสนอสินค้าอะไรมาแนะนำลูกค้าก็มั่นใจในคุณภาพ 

****** โกงใครหลอกใครก็ทำได้แต่ไม่อาจหลอกตัวเองได้ ******


http://www.p-seangthong.ws/

Facebook Page : GDI Prosective

Line ID : 0816748606