วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558

อุปสรรคของความสำเร็จ

เมื่อเป้าหมายถูกบิดเบือน
   คุณเคยเกิดความขัดแย้งในตนเองรึเปล่า มันทำให้ความรู้สึกและจิตสำนึกนั้นถูกลบเลือน ด้วยความคิดของคุณเองเลยนะ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ทรมาน สับสน กังวล จนเกิดความไม่แน่ใจ ในสิ่งที่เคยเชื่อมั่น
   ด้วยปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เรา เกิดความขัดแย้งในตนเอง ทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ทั้งสิ่งเหตุการณ์ที่เจอกับตัวเอง ทั้งประสบการณ์ที่เล่าต่อๆกันมา ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จ โดยทั้งสิ้น เราจะมาแยกออกเป็นส่วนๆเพื่อให้รู้วิธีแก้ไขเป็นข้อๆต่อไป


   

ปัจจัยภายนอก
   หลายคนคงเคยประสบพบเจอมาแล้วทั้งนั้น กับการที่เราจะเริ่มทำอะไรสักอย่างมักจะมีเพื่อน หรือ คนใกล้ตัวมาคอยแสดงความคิดเห็นทางด้านลบ อย่างเช่น จะทำได้เหรอ เห็นเจ๊งกันมาเยอะแล้ว ราคาแพงไปมั๊ย ขายตรงอีกล่ะไม่ยุ่งด้วยนะ 
   จะเริ่มธุรกิจที่มันสุจริตสักงาน มันช่างยากแสนเข็ญ งานที่เป็นรูปธรรมมองเห็นจับต้องได้มันไม่ค่อยมีคนเชื่อว่าทำได้ แต่อะไรที่มองไม่เห็น มีจริงรึเปล่าไม่รู้  แต่เค้าบอกว่าได้แน่ๆแมร่งเชื่อ สมมุติเราบอก "เสื้อสีเขียวแกใส่ไม่ขึ้นอ่ะ" มันไม่เชื่อ แต่หมอดูบอก "ห้ามใส่เสื้อสีเขียวเป็นอัปมงคล" แมร่งเชื่อ!! นี่แหล่ะมนุษย์
แก้ไข
   แก้ไม่ยากเลย เชื่อมั่นในตัวเองสิเราทำได้ ทำไม่ได้ต้องรอให้คนอื่นมาบอกเหรอ มันต้องรู้ตัวเองแล้ว ธุรกิจนี้เลือกมากับมือ จากความชอบ จากงานที่เรารัก คนที่จะทำมันได้ดีที่สุดก็คือ ตัวคุณเองไม่ใช่ใครเหรอ หรือ จะให้คนที่ไม่ได้มาลงมือทำคอยบอก เชื่อคุณต้องเชื่อ
ถ้าคุณเชื่อ คนอื่นก็จะเชื่อในสิ่งที่คุณเชื่อเช่นกัน 



ปัจจัยภายใน
   ข้อนี้ไม่ได้เกิดจากใครเลย เกิดจากตัวเราเองล้วนๆ แล้วมันเกิดมาจากอะไรได้บ้าง ช่วงเริ่มต้นของธุรกิจบางธุรกิจก็เริ่มต้นได้ดี กับบางธุรกิจมันไม่เป็นไปอย่างที่คิด และสิ่งนี้ก็จะเกิดนั่นคือ "ความท้อ" 
   บางครั้งคนเราก็มองข้ามบางอย่าง ที่ใกล้ตัวไปได้เหมือนกัน นั่นคือ "ความพยายาม" คนส่วนใหญ่ถ้าผิดพลาดมักจะไม่ค่อยโทษตัวเองแต่จะโทษทุกอย่างที่อยู่รอบตัว ทั้งๆที่บางอย่างอาจเกิดจากตัวเราเอง
แก้ไข
   อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับบางคน แต่ถ้าเรามีการวางแผนมาเป็นอย่างดี วิธีการทำงานก็จะเป็นขั้นตอน และตรวจสอบจุดบกพร่องได้ง่าย วางแผนให้เป็นขั้นตอน ทำการกำหนดช่วงเวลา ทีนี้ถึงก้าวพลาดก็ไม่ต้องมาเริ่มใหม่ทั้งหมด แค่ย้อนขั้นตอนกลับไป 
   เปรียบง่ายๆเหมือนทอดไข่เจียว ใส่ไข่ก่อนน้ำมัน กับ ใส่น้ำมันก่อนไข่ ผลลัพท์มันก็ต่างกันทั้งๆที่มาจาก 2 สิ่งที่เหมือนกัน ทำธุรกิจก็เหมือนกัน อย่าไปทำให้มันยาก เราลองคิดที่จะมีผลลัพท์ยากๆด้วยวิธีการง่ายๆดูสิ น่าสนุกนะ




คำคม คม แรงบันดาลใจดี ดี ใครก็พูดได้ มันต่างกันที่ ใครจะทำ

GDI Prosective

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558

หมดปัญหาเรื่องเวลาทำงาน ด้วยการทำงานอย่างเป็นระบบ

The system works
   หรือ การทำงานอย่างเป็นระบบ ทุกวันนี้หลายคนที่ใช้เวลาทำงานไปพร้อมๆกับออกแรงทำงาน แต่จะมีสักกี่คนที่คิดถึงการวางแผนระบบการทำงาน คงจะมีแต่เจ้าของกิจการหรือไม่ก็ผู้นำองค์กร ที่มองเห็นตรงส่วนนี้ว่าสำคัญ 
   คนส่วนใหญ่ในประเทศจะเป็นชนชั้นแรงงาน ลูกจ้างรัฐวิสาหกิจและเอกชนเป็นส่วนใหญ่ จึงได้แต่ทำตามระบบให้หมดเวลางาน มากกว่าจะคิดวางแผนระบบการทำงานของตัวเอง ข้อนี้เถียงได้ถ้าไม่จริง 


   ผมจึงอยากให้มองเห็นความสำคัญในการสร้างระบบการทำงาน บางทีอาจเป็นทางเลือกให้คุณ มีรายได้มากกว่าหนึ่งทางก็เป็นได้ ลองคิดดูสิว่าปัจจุบันถ้าคุณมีรายได้เดือนละ 20,000 บาท ค่าดำรงค์ชีพ ค่าบัตรเครดิต ค่าเช่าห้อง ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ บางคนยังมีผ่อนบ้าน ผ่อนรถอีก เงินเดือนคุณมันพอกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้รึเปล่า นี่ยังไม่รวมค่าสังสรรค์กับเพื่อนฝูงเลยนะ 
   ก่อนที่จะไปไกล มาว่ากันด้วยเรื่องระบบดีกว่า ถ้าคุณจัดการวางแผนการทำงานให้เป็นขั้นตอน งานของคุณก็จะเสร็จตามเป้าหมายเร็วขึ้น แยกออกมาเป็นข้อๆอย่างเช่น
1. เป้าหมายการทำงาน
2. จัดการแยกงานเป็นหมวดหมู่
3. ทำที่ละหมวดตามความสำคัญ
4. ตรวจทาน
5. สรุปงานตามเป้าหมายทั้งหมด
   มันอาจจะดูมีข้อจำกัด เหมือนจะดูยุ่งยากแต่เชื่อเถอะครับว่ามันเวิร์ค ลองคิดดูถ้าไม่ได้วางระบบงานไว้ เวลามีปัญหาคุณอาจต้องมาแก้ไขใหม่ตั้งแต่ต้นเพราะหาสาเหตุไม่เจอ แต่ถ้าจัดสัดส่วนการทำงานแล้ว จะมองเห็นปัญหาได้ตั้งแต่มันยังไม่เกิดด้วยซ้ำไป
   ถ้าคุณเสียเวลามาวางแผนระบบการทำงาน วันนึงคุณอาจได้วางแผนชีวิตตัวเองใหม่ จากที่เคยใช้แรง ใช้เวลาไปกับงานของคนอื่น มาเป็นใช้เวลาสร้างอนาคต สร้างอาชีพของคุณเอง อย่างไหนมันจะดีกว่ากัน 

 *** อยากมีเวลาใช้ชีวิต เอาเวลามาสร้างชีวิตก่อนมั๊ย ***