วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559

การตลาดออนไลน์

การตลาดออนไลน์
พอกล่าวถึงคำว่า "การตลาด" 
มีสักกี่คนที่รู้ว่ามันหมายความอย่างไร 



   การตลาด คือ การที่สินค้าถูกส่งจากผู้ผลิต ไปสู่ผู้บริโภค ส่วนการโปรโมท โฆษณา การที่มีบุคคลนำสินค้าไปนำเสนอ ส่วนต่างๆเหล่านั้น เป็นวิธีทำการตลาด 
   รูปแบบของการทำการตลาด ก็ยังแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆอีก เช่น ค้าปลีก ขายตรง เครือข่าย แชร์ลูกโซ่ ซึ่ง 3 แบบหลังจะถูกเหมารวมว่าเป็นรูปแบบเดียวกัน จริงๆมันมีวิธีการที่คล้ายกัน แต่ทั้ง 3 แบบนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
   วันนี้จะมาพูดถึงการตลาดที่แบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆคือ
   - การตลาดออฟไลน์
   - การตลาดออนไลน์
   
   การตลาดออฟไลน์ คือ การทำการตลาดแบบทั่วไป หรือ แบบเก่า เป็นการทำการตลาดผ่านหน้าร้าน ผ่านตัวแทนที่มีการสื่อสารโดยตรง ผ่านโทรศัพท์ โทรสาร โทรทัศน์ วิทยุ และสื่อต่างๆที่เป็นสื่อพื้นฐาน เป็นการซื้อขายผ่านตัวบุคคล

   การตลาดออนไลน์ คือ การทำการตลาดผ่านระบบอินเตอร์เน็ต มีหลายช่องทาง อย่างเช่น
   
   * Capture page หรือ หน้าเว็บไซต์
   * Email
   * Socail Network
   * SEO
   * Ads 
   
   ช่องทางเหล่านี้เป็นเพียงส่วนนึงของการทำการตลาดแบบออนไลน์ ยังมีอีกหลายช่องทางที่เป็นตัวช่วยในการทำการตลาด ซึ่งเป็นที่ต้องการของนักการตลาดยุคใหม่ รวมไปถึงพ่อค้า แม่ค้า ที่เล็งเห็นความสะดวกของช่องทางออนไลน์ 
   ข้อดีของ การตลาดออนไลน์ คือ เราไม่ต้องแหกปากตะโกนขายของ แถมยังไม่มีความเสี่ยงที่จะเสียเพื่อนหรือคนใกล้ชิด เพราะการตลาดแบบนี้จะอาศัยช่องทางที่มีบนโลกออนไลน์ ในการนำเสนอสินค้า ตรงกลุ่มเป้าหมายมากกว่า (เลือกได้) ส่วนการหลอกลวงหรือไม่ก็ขึ้นอยู่ที่วิจารณญาณ ของผู้บริโภค ตัวเลือกสินค้า และร้านค้ามีมากไม่ต้องรีบ ค่อยๆเลือกได้
    สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ดูจะเป็นประโยชน์กับผู้ผลิต หรือ เจ้าของแบรนด์สินค้า ก็น่าจะเป็นที่ตัวสินค้ามีการกระจายตัวสูง เนื่องจากมีคนเห็นสินค้ามากมาย ต่างจากช่องทางออฟไลน์

   แต่อย่างไรเสียทั้ง การตลาดแบบออฟไลน์ หรือ การตลาดแบบออนไลน์ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็ยังเป็น ตัวสินค้าและความน่าเชื่อถือของนักการตลาดอยู่ดี เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็ยังกลัวการถูกหลอกอยู่ดี
   สำหรับบทความต่อไปจะมาพูดถึงเครื่องมือสำคัญที่ควรมี ในการทำ การตลาดแบบออนไลน์ ติดตามได้ที่นี่หรือแฟนเพจ

วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

อยากรวย แต่ไม่อยากทำอะไร เป็นไปได้รึเปล่า?

อยากรวย


แค่หัวข้อก็กินขาดแล้ว ผมว่าหลายคนก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน อยากมีเงินแต่ไม่อยากเหนื่อยไปมากกว่านี้ มันต้องมีสักอย่างที่ตอบสนองความต้องการนี้ได้

เราลองมาหากันดูดีไหม ว่ายังพอมีรึเปล่าบนโลกใบนี้ ไอ้ที่ว่าไม่ทำอะไรก็รวย

จากที่ค้นหาใน Google ดูแล้วมันก็พอจะมีให้เห็นอยู่นะ งานหรือธุรกิจที่รวยเร็ว รวยง่าย โดยที่ไม่ต้องทำอะไร ก็ธุรกิจประเภทหลอกสตางค์ชาวบ้าน หากินบนความโลภของมนุษย์ ลงทุนน้อยได้กำไรเกินครึ่ง ไม่ต้องทำอะไรมากแค่นำเสนอโอกาสเอาจำนวนรายได้มากๆมาหลอกล่อให้มนุษย์ผู้โหยหาความสบาย ไปติดกับดักแห่งความโลภของตัวเอง หรือที่หลายต่อหลายคนเรียกว่า "แชร์ลูกโซ่"

กระจ่างสว่างวาบ มันไม่มีหรอกงานหรือธุรกิจที่ไม่ทำอะไรแล้วรวยอ่ะ แต่คนที่เขาประสบความสำเร็จในธุรกิจ เขาทำ เขาเหนื่อยมาก่อนหน้าแล้ว เพียงแต่เราไปมองตอนที่เขารวยและสบายแล้วเท่านั้น ตอนที่เขาลำบากฝ่าฟันอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจเราไม่ได้สนใจตรงนั้นไง เลยคิดว่าเขารวย เขาสบาย

ธุรกิจบนโลกนี้มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน แต่ทั้งหมดล้วนต้องแรกมาทั้งประสบการณ์ ความเสี่ยง และโอกาส ยากบ้าง ง่ายบ้าง ขึ้นอยู่กับความชำนาญของเจ้าของและผู้ปฎิบัติ บางธุรกิจใช้เวลานานกว่าจะสำเร็จ บางธุรกิจเหมือนจุดไฟติดในครั้งเดียว 

เห็นรึเปล่าว่ามันมีหลายปัจจัย ในการทำงานหรือธุรกิจ แต่ไม่มีข้อไหนที่บอกว่าไม่ต้องทำอะไร ถ้าเรารักสบายให้อยู่แบบเดิม อยู่กับความเคยชิน อย่าไปล้มเลิกสิ่งหนึ่งเพื่อมาเริ่มสิ่งใหม่ มันจะไม่มีวันสิ้นสุด ถ้าจะเลิกต้องแน่ใจเสียก่อนว่าสิ่งใหม่ที่เรากำลังจะทำหรือลงมือทำอยู่นั้น มันดีกว่าเดิม ไม่อย่างนั้นอย่าเลิก

ทุกคนมีสิทธิ์รวยได้อย่างแน่นอน ถ้ารู้จักสิ่งที่ทำอยู่อย่างชัดแจ้งเห็นจริง ไม่มีอะไรเกินความพยายามของมนุษย์หรอก ถ้าอยากสำเร็จอย่างถูกต้องนั้นไม่ยาก ให้ไปดูคนที่เขาประสบความสำเร็จในชีวิตหรือธุรกิจแล้ว เราจะได้ไม่หลงทาง รู้ว่าทำยังไงถึงรวยทำ รู้ว่าทำอย่างนี้แล้วเจ๊งก็อย่าไปทำแค่นั้น

วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เปลี่ยนของเล่น ให้เป็นเครื่องมือ

Social Marketing 

   
   หลายคนในที่นี้ปฎิเสธไม่ได้ว่า ชีวิตความเป็นอยู่ในทุกๆวัน มันขาดสิ่งที่เรียกว่า Social Media ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น Facebook , Line , Instagram , Twitter และสื่ออื่นๆอีกมากมาย 
   แล้วคุณรู้อีกหรือไม่ว่า การเติบโตของผู้ใช้งานสื่อเหล่านี้ ก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน แทรกเข้าไปยังทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ทุกวัย ทุกระดับชั้น ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งาน Social Media ได้ด้วยกันทั้งนั้น


    ทีนี้คุณเห็นอะไรในนั้นรึเปล่า หลายคนอาจจะมองเห็นแค่กลุ่มคนที่มาใช้งานมากขึ้น มาแย่งการใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทำให้ฉันติดต่อสื่อสารได้ช้าลง
   แต่ผมเชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่มองเห็น " โอกาส "  โอกาสที่จะนำสินค้า การบริการ หรือสื่อที่มีประโยชน์มานำเสนอกับกลุ่มคนเหล่านี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้า และสิ่งที่จะได้รับกลับมาคือ รายได้

   จะมัวมานั่งโพสต์ แชร์ เรื่องราวของชาวบ้านอยู่ทำไม ลองนำสินค้าหรืออะไรที่คุณมี มาโพสต์ขายสิ บางทีอากาศที่แปรปวนก็ไม่เชิญชวนให้ลูกค้าของคุณออกมาหาถึงหน้าร้านก็ได้ ในโลกออนไลน์ก็มีแหล่งที่เปิดโอกาสให้นำสินค้ามาวางขายโดยไม่ต้องเสียค่าเช่าตั้งเยอะแยะไป ไม่แน่นะอาจจะขายดีกว่ามีหน้าร้านอีกทำเป็นเล่นไป
   แต่อย่างว่านะทุกอย่างมันมี 2 ด้านเสมอ ไอ้โซเชียลเนี้ยะมันก็สังคมแบบนึงเหมือนกัน อะไรที่ดีก็สนับสนุน ก็อวยกันไป แต่ถ้าไปทำเสื่อมเมื่อไหร่ ก็พร้อมจะรุมประนามกันได้ทุกเมื่อ 
   เช่นนั้นแล้ว จะทำอะไรก็บริสุทธิ์ใจเข้าไว้ อย่าไปโกง อย่าไปเอาเปรียบลูกค้าแล้วกัน จะได้มีรายได้กันไปยาว ยาว